
เครดิตบูโรดี รู้แบบนี้ กู้อะไรก็ผ่าน!
สงสัยกันไหม? ทำไมกู้สินเชื่อทีไรก็ไม่ผ่านสักทีนะ เพราะทุกครั้งที่เรายื่นกู้สินเชื่อทางสถาบันการเงินจะตรวจสอบประวัติทางการเงินเพิ่มเติมที่เรียกว่า ‘เครดิตบูโร’ และเครดิตบูโรนี้สำคัญอย่างไร ทำไมถึงมีผลต่อการอนุมัติสินเชื่อ
วันนี้ดอลฟินจะพาไปทำความรู้จัก ‘เครดิตบูโร’ ให้มากขึ้นเพื่อให้เพื่อนๆ ได้เข้าใจและช่วยให้มีโอกาสได้รับอนุมัติสินเชื่อมากกว่าเดิม
‘เครดิตบูโร’ คือ สมุดพกของคนที่มีหนี้โดยทำหน้าที่จัดเก็บข้อมูลสินเชื่อและประวัติการชำระหนี้ของผลิตภัณฑ์สินเชื่อทั้งหมดได้แก่ บัตรเครดิต บัตรกดเงินสด สินเชื่อส่วนบุคคล สินเชื่อเพื่อผู้ประกอบการ สินเชื่อรถยนต์และสินเชื่อที่อยู่อาศัย
หลายๆ ครั้งที่ต้องการกู้สินเชื่อ พอส่งใบสมัครไปแต่ก็ผิดหวังกลับมาเพียงเพราะ ‘ติดบูโร’ ซึ่งเหตุผลที่ติดบูโรมีอยู่ 2 ปัจจัยหลัก ๆ
ดังนี้
1. ผิดนัดชำระหนี้
2. ชำระหนี้ล่าช้า 90 วัน
ซึ่งสถาบันการเงินจะส่งข้อมูลให้แก่เครดิตบูโรเป็นรายเดือนทุกเดือน ติดต่อกัน 36 เดือน หากมีการจ่ายหนี้ครบจะแสดงยอดหนี้เป็น “0” และมีสถานะเป็นปิดบัญชี โดยจะแสดงข้อมูลอยู่ในเครดิตบูโรไม่เกิน 3 ปี ซึ่งเมื่อครบกำหนดแล้วจะถูกลบประวัติออกจากฐานข้อมูล ทำให้มีโอกาสได้รับอนุมัติสินเชื่อง่ายยิ่งขึ้น โดยภายในระยะเวลา 3 ปี เราก็สามารถจัดการหนี้ต่างๆ และทำให้ตัวเองมีเครดิตที่ดีเพื่อการกู้เงินในอนาคตได้
ถ้าใครที่อยากรู้ว่าตัวเองเครดิตบูโรเป็นอย่างไรก็สามารถขอเครดิตบูโรได้หลายช่องทาง ดังนี้
-
ที่ทำการไปรษณีย์และเคาท์เตอร์บริการไปรษณีย์ อ่านรายละเอียดได้ที่ https://www.ncb.co.th/ncb-infographic/check-credit-post-mail
-
ตู้บริการอเนกประสงค์ที่สถานีรถไฟฟ้า BTS อ่านรายละเอียดได้ที่ https://www.ncb.co.th/ncb-infographic/report-credit-2
-
โมบายแอปพลิเคชันของธนาคารต่าง ๆ เช่น Krungthai NEXT, MyMo, TTB Touch, KKP Mobile, หรือแอป Bureau OK อ่านรายละเอียดได้ที่ https://www.ncb.co.th/ncb-infographic/check-credit-online-4
สำหรับใครที่อยากกศึกษาข้อมูลเพิ่มเติมและเสริมสร้างวินัยทางการเงิน สามารถอ่านบทความได้ที่เว็บไซต์ บริษัท ข้อมูลเครดิตแห่งชาติ ที่ลิ้งค์นี้ได้เลย https://www.ncb.co.th/category/ncb-infographic/financial-literacy-infographic
พอได้รู้จักเครดิตบูโรกันไปแล้วว่ามีความสำคัญต่อการกู้สินเชื่อขนาดไหน หากเราเป็นหนึ่งในคนที่ติดบูโร เราก็ต้องแก้ไขปัญหาดังกล่าว และรอเวลาเพื่อให้ประวัติการชำระดีขึ้น จากนั้นก็ลองสมัครขอสินเชื่อใหม่อีกครั้ง ส่วนใครที่ประวัติชำระดีขึ้นแล้วหรือมีประวัติการชำระที่ดี แต่ติดปัญหาทางการเงิน อยากยืมเงินง่าย ใช้จ่ายสบายกระเป๋า สามารถมายืม Dolfin Money | KBank ได้นะ 👉 คลิกเลย!
เครดิตบูโรดี รู้แบบนี้ กู้อะไรก็ผ่าน!
สงสัยกันไหม? ทำไมกู้สินเชื่อทีไรก็ไม่ผ่านสักทีนะ เพราะทุกครั้งที่เรายื่นกู้สินเชื่อทางสถาบันการเงินจะตรวจสอบประวัติทางการเงินเพิ่มเติมที่เรียกว่า ‘เครดิตบูโร’ และเครดิตบูโรนี้สำคัญอย่างไร ทำไมถึงมีผลต่อการอนุมัติสินเชื่อ
วันนี้ดอลฟินจะพาไปทำความรู้จัก ‘เครดิตบูโร’ ให้มากขึ้นเพื่อให้เพื่อนๆ ได้เข้าใจและช่วยให้มีโอกาสได้รับอนุมัติสินเชื่อมากกว่าเดิม
‘เครดิตบูโร’ คือ สมุดพกของคนที่มีหนี้โดยทำหน้าที่จัดเก็บข้อมูลสินเชื่อและประวัติการชำระหนี้ของผลิตภัณฑ์สินเชื่อทั้งหมดได้แก่ บัตรเครดิต บัตรกดเงินสด สินเชื่อส่วนบุคคล สินเชื่อเพื่อผู้ประกอบการ สินเชื่อรถยนต์และสินเชื่อที่อยู่อาศัย
หลายๆ ครั้งที่ต้องการกู้สินเชื่อ พอส่งใบสมัครไปแต่ก็ผิดหวังกลับมาเพียงเพราะ ‘ติดบูโร’ ซึ่งเหตุผลที่ติดบูโรมีอยู่ 2 ปัจจัยหลัก ๆ
ดังนี้
1. ผิดนัดชำระหนี้
2. ชำระหนี้ล่าช้า 90 วัน
ซึ่งสถาบันการเงินจะส่งข้อมูลให้แก่เครดิตบูโรเป็นรายเดือนทุกเดือน ติดต่อกัน 36 เดือน หากมีการจ่ายหนี้ครบจะแสดงยอดหนี้เป็น “0” และมีสถานะเป็นปิดบัญชี โดยจะแสดงข้อมูลอยู่ในเครดิตบูโรไม่เกิน 3 ปี ซึ่งเมื่อครบกำหนดแล้วจะถูกลบประวัติออกจากฐานข้อมูล ทำให้มีโอกาสได้รับอนุมัติสินเชื่อง่ายยิ่งขึ้น โดยภายในระยะเวลา 3 ปี เราก็สามารถจัดการหนี้ต่างๆ และทำให้ตัวเองมีเครดิตที่ดีเพื่อการกู้เงินในอนาคตได้
ถ้าใครที่อยากรู้ว่าตัวเองเครดิตบูโรเป็นอย่างไรก็สามารถขอเครดิตบูโรได้หลายช่องทาง ดังนี้
-
ที่ทำการไปรษณีย์และเคาท์เตอร์บริการไปรษณีย์ อ่านรายละเอียดได้ที่ https://www.ncb.co.th/ncb-infographic/check-credit-post-mail
-
ตู้บริการอเนกประสงค์ที่สถานีรถไฟฟ้า BTS อ่านรายละเอียดได้ที่ https://www.ncb.co.th/ncb-infographic/report-credit-2
-
โมบายแอปพลิเคชันของธนาคารต่าง ๆ เช่น Krungthai NEXT, MyMo, TTB Touch, KKP Mobile, หรือแอป Bureau OK อ่านรายละเอียดได้ที่ https://www.ncb.co.th/ncb-infographic/check-credit-online-4